ยารักษาสิว

สิว เป็นโรคที่ไม่รุนแรงถึงชีวิต แต่ทำให้ผู้ที่เป็นสิวหงุดหงิดและสูญเสียความมั่นใจในตนเองมากทีเดียว การรักษามักใช้เวลาและเงินทองจำนวนไม่น้อย เรามารู้จักการใช้ยารักษาสิวให้ได้ผลเต็มที่กันเถิด

ยารักษาสิวมีหลายชนิดทั้งชนิดรับประทานและชนิดทาภายนอก

ยา รับประทานรักษาสิว ที่ใช้กันมานานและยังได้ผลดีได้แก่ ยาปฏิชีวนะ ชื่อ เตตราซัยคลิน (Tetracyclines) ซึ่งมีชื่อการค้าหลากหลายยี่ห้อ ยาประเภทนี้ห้ามรับประทานพร้อมนม หรือยาลดกรดในกระเพาะอาหาร ถ้าจำเป็นก็ต้องรับประทานห่างกันอย่างน้อย 2 ชั่วโมง มิฉะนั้นยาจะไปจับกับนมหรือยาลดกรด ทำให้ร่างกายไม่สามารถดูดซึมตัวยาไปใช้ได้ ยาเตตราซัยคลินนี้ต้องรับประทานติดต่อกันทุกวันทุกมื้อจนครบระยะเวลาในการ รักษา มิฉะนั้นจะเกิดการดื้อยาได้

นอกจากนี้ยังไม่ควรซื้อเตตราซัย คลินมาเก็บไว้มาก ๆ หรือนาน ๆ เพราะเมื่อยาได้รับความชื้นหรือถูกแสงนาน ๆ ยาจะ เสื่อมคุณภาพ ผู้รับประทานเข้าไปจะเกิดอาการเป็นพิษต่อไตรุนแรงได้ วิธีสังเกตตัวยาที่เสื่อมคุณภาพแล้ว คือ ปกติเตตราซัยคลินในแคปซูลจะมีลักษณะเป็นผงยาสีเหลืองสดใส แต่ยาที่เสื่อมแล้วจะมีลักษณะคือเป็นสีคล้ำขึ้น หรือเกาะกันเพราะความชื้น

ยา รับประทานรักษาสิวอีกชนิดหนึ่ง ได้แก่ยาพวกกรดวิตามินเอ (Vitamin A acid) หรือเรติโนอิก แอสิด มักพบในชื่อการค้า เช่น โรแอคคิวเทน แพทย์มักใช้ในรายที่เป็นสิวอย่างรุนแรง และรักษาด้วยเตตราซัยคลินแล้วไม่หาย ข้อควรระวังคือ ต้องคุมกำเนิดอย่างเคร่งครัดระหว่างใช้ยานี้ เพราะยามีผลทำให้ทารกตายหรือคลอดออกมาพิการได้ ยานี้สะสมในร่างกายได้ จึงต้องคุมกำเนิดต่อไปอีกระยะเวลาหนึ่งหลังจากหยุดยาแล้ว ยากลุ่มนี้ผู้ที่มีโรคประจำตัวเป็นเบาหวาน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ไม่ควรใช้ ผู้ที่ใช้ยานี้ติดต่อกันนาน ควรเจาะเลือดดูระดับไขมันไตรกลีเซอไรด์บ้าง สำหรับผู้ที่ใช้ยานี้แล้วไม่ควรกินวิตามินเอหรือวิตามินรวมอีก เพราะจะได้รับวิตามินเอมากเกินไปเป็นอันตรายได้

สำหรับยารักษาสิว ชนิดทา มีหลายชนิด ส่วนใหญ่จะออกฤทธิ์โดยทำให้ผิวหนังลอก เปิดรูขุมขนออก และบางชนิดมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียด้วย ทำให้การอักเสบลดลง แผลแห้ง และลอกหลุดไป ข้อควรระวังคือ อย่าทาใกล้เนื้อเยื่ออ่อน ๆ เช่น มุมปาก ริมฝีปาก ขอบตา บางชนิดมีฤทธิ์ในการกัดสีด้วย ถ้าทาโดนผมอาจทำให้ผมหงอกได้

การ รักษาสิว ควรระมัดระวังเรื่องความสะอาด ห้ามแกะเกาสิวเพราะจะทำให้เกิดแผลเป็นได้ ต้องระวังอย่าให้ท้องผูก ดื่มน้ำมาก ๆ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายให้เลือดไหลเวียนดี ก็จะช่วยทุเลาได้ ที่สำคัญคือ ใช้ยาตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ห้ามเพิ่มปริมาณยาเอง เพราะนอกจากจะไม่ช่วยให้หายเร็วแล้วยังอาจเป็นพิษต่อร่างกายด้วย

ขอขอบคุณ อ้วน.com
http://www.xn--q3c1ar6i.com/forum/index.php

ไม่มีความคิดเห็น:

Speak Your Mind

Powered By Blogger · Designed By Seo Blogger Templates