เบต้าคาร์โรทีนและคาร์โรทีนนอยด์เพื่อการบำรุงสายตา

เบต้าคาร์โรทีนและคาร์โรทีนอยด์ เพื่อการบำรุงสายตาชะลอความเสื่อมของเซลล์ ปกป้องผิวจากแสงแดด
เป็นที่ทราบกันดีว่า การรับประทานพืชผัก และผลไม้เป็นวิธีการหนึ่งที่จะช่วยให้เรามีสุขภาพที่ดี เพราะประกอบด้วยวิตามินและสารอาหารที่จำเป็นนานาชนิด แต่ด้วยวิถีการดำรงชีวิตประจำวันของเราทุกวันนี้ มักรับประทานอาหารจานด่วน อาหารกระป๋อง หรือบางคนไม่ชอบรับประทานผักและผลไม้ ทำให้มีโอกาสได้รับสารอาหารที่จำเป็นไม่ครบถ้วนและไม่เพียงพอ ซึ่งพืชผักและผลไม้ ประกอบด้วยสารอาหารสำคัญ คือ คาร์โรทีนอยด์

คา ร์โรทีนอยด์ เป็นสารประกอบตามธรรมชาติที่มีอยู่ในพืชผัก ผลไม้ ที่ทำให้มีสีแดง สีส้ม สีเขียว และสีเหลือง เช่น แครอท แคนตาลูป ผักโขม ฟักทอง สาหร่าย ที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ ที่ปัจจุบันพบว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการเสื่อมของเซลล์และอวัยวะ ต่างๆ สารกลุ่มคาร์ดรทีนอยด์มีหลายชนิด เช่น อัลฟาคาร์โรทีน ลูทิอิน ซีแซนทิน แต่ที่รู้จักกันดีและมีอยู่ในพืชผัก ผลไม้ส่วนใหญ่ คือ เบต้าคาร์โรทีนโดยคาร์โรทีนอยด์แต่ละชนิดจะทำงานสนับสนุนกันในการออกฤทธิ์ เพื่อประโยชน์ต่อร่างกายในด้านต่างๆ ดังนั้นนอกจากเราจะต้องรับประทานผัก ผลไม้ ในปริมาณสูงแล้ว ยังต้องให้ได้หลากหลายชนิด เพื่อให้ได้คาร์ดรทีนอยด์ครบอีกด้วย
หน้าที่สำคัญของเบต้าคาร์โรทีนและคาร์โรทีอยด์
1.เปลี่ยนเป็นวิตามิน เอ เมื่อร่างกายต้องการ (Pro vitamin A)
เบต้าคาร์ โรทีน จัดว่าเป็นสารอาหารที่มีความสำคัญโดยเฉพาะกรณีที่ร่างกายได้รับววิตามิน เอ ไม่เพียงพอซึ่งวิตามิน เอ เป็นส่วนประกอบที่มีความสำคัญมากต่อตาของเราในการช่วยให้เรามองเห็นใน่มืด ช่วยบำรุงสายตาป้องกันโรคตาบอดกลางคืน (Night blindness) ป้องกันการเกิดต้อกระจำ พบว่าเบต้าคาร์โรทีนจะถูกเปลี่ยนเป็นวิตามิน เอ ได้ดี เท่าที่ร่างกายต้องการ จึงช่วยการมองเห็นในที่มืด ป้องกันโรคตาบอดตอนกลางคืน ลดความเสี่ยงในการเกิดต้อกระจก และชะลอการเสื่อมของจอประสาทตา
2.ช่วยในการต้านสารอนุมูลอิสระ (Antioxidant)
อนุมูล อิสระ เป็นสารที่เกิดขึ้นในร่างกายตลอดเวลา ทั้งจากปัจจัยภายในร่างกาย เช่น ความเครียด ปฎิกิริยาต่างๆหรืออาจถูกกระตุ้นให้เกิดมากขึ้นจากปัจจัยภายนอกร่างกายเช่น แสงแดด มลภาวะ บุหรี่ พบว่า เบต้าคาร์โรทีน และ คาร์โรทีนอยด์จะช่วยปกป้องเซลล์ เนื้อเยื่อและอวัยวะต่างๆของร่างกายจากอนุมูลอิสระ ที่เป็นสาเหตุสำคัญนำไปสู่การเกิดโรคเรื้อรัง เช่น การแก่ก่อนวัย โรคมะเร็ง โรคระบบ หัวใจและหลอดเลือด โดยพบว่าหากรับประทานร่วมกับวิตามิน อีและวิตามิน ซีจะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการปกป้องเซลล์ เนื้อเยื่อและอวัยวะต่างๆ ของร่างกายได้ดียิ่งขึ้น
3.การปกป้องผิวพรรณจาการถูกทำลายด้วยรังสียูวีจากแสงแดด
เป็น ที่ทราบกันดีว่า รังสียูวีจากแสงแดด เป็นสารสำคัญที่ทำให้เกิดผิวอักเสบ ร้อนแดง ผิวไหม้แดด ผิวหยาบกร้านหมองคล้ำ ไม่สดใส พบว่าการได้รับ เบต้าคาร์โรทีนต่อเนื่องจะช่วยปกป้องผิวพรรณที่อาจเกิดอันตรายจากแสงแดดดัง กล่าวได้

ขนาดรับประทานที่แนะนะ
รับประทาน วันละ 15-30 มิลลิกรัม หลังอาหาร

ไม่มีความคิดเห็น:

Speak Your Mind

Powered By Blogger · Designed By Seo Blogger Templates