6 วิธีลดอาการอยากของหวาน

6 วิธีลดอาการอยากของหวาน


ผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำวิธีไดเอ็ทด้วยการเอาชนะความอยากทานหวานและเค็ม


ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังอยู่ในระหว่างไดเอ็ทอย่างหนัก นั่นก็หมายความว่าคุณกำลังอยู่ในช่วงต้องตัดลดปริมาณการรับประทานรสหวานและรสเค็มลงให้ได้ ซึ่งการลดความอยากกินรสชาติอันยั่วยวนทั้งสองอย่างนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะฉะนั้นนายแพทย์ Mehmet Oz หรือที่รู้จักกันในนาม Dr. Oz ผู้เชี่ยวชาญและมีชื่อเสียงในวงการแพทย์รวมถึงยังเป็นนักแต่งหนังสือ ก็ได้มาให้คำแนะนำที่มีประโยชน์ ที่จะช่วยให้คุณสามารถลดความอยากทานทั้งสองรสชาตินี้ลงได้ ซึ่งก็จะนำไปสู่หุ่นอันผอมเพรียวที่หวังไว้ในที่สุด!

เมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ That's Fit ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพได้ รายงานว่าความปรารถนาอยากรับประทานอาหารนั้นมีความคล้ายคลึงกับความปรารถนา ในเรื่องของเพศสัมพันธ์ Dr. Oz บอกว่ามันก็คือความต้องการทางด้านชีวภาพในการที่จะรักษาและบำรุงเลี้ยงดู ระบบการทำงานในหลายๆ ระดับ และทั้งสองอย่างนี้จะผิดพลาดไม่ได้เพราะเป็นสองสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งยวด ต่อสายพันธุ์มนุษย์ของเรา

ปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือเรามักจะมีความอยากทานเค้กช็อกโกแลตหรือวัฟเฟิ่ล มากกว่าที่จะไปโหยหาผักโขมหรือถั่วงอกนี่น่ะสิ แถมการที่จะเสริมสร้างพลังต่อต้านความอยากเหล่านั้นถ้าจะเปรียบเทียบไปแล้ว ก็จะคล้ายๆ กับการพยายามจะกลั้นหายใจใต้น้ำตลอดชั่วกัลปาวสาน เพราะฉะนั้น Dr. Oz ถึงได้บอกว่า คุณจะต้องมีการวางแผนที่ดี และต่อไปนี้คือคำแนะนำอันมีค่า

1. รู้จักความปรารถนาของตัวเอง

Dr. Oz บอกว่าทุกคนมีความอยากอาหารที่แตกต่างกัน เพราะฉะนั้นก็ให้คอยดูว่าอะไรที่จะกระตุ้นต่อมอยากอาหารของคุณ​และก็พยายาม อยู่ห่างมันให้มากที่สุด สำหรับ Dr. Oz แล้ว ของโปรดของเขาก็คือถั่วเคลือบช็อกโกแลต ที่เขาบอกว่าเขากินมันได้ครั้งละเป็นแกลลอนๆ เลย แถมยังกินได้ไม่หยุดอีกด้วย เพราะฉะนั้นเขาก็เลยพยายามไม่ไปอยู่ใกล้ๆ มัน และหลีกเลี่ยงให้ไกลที่สุดถ้าทำได้

2. เก็บอาหารประเภท ‘junk food' ออกจากบ้านให้หมด
Dr. Oz แนะนำว่าให้เก็บเอาอาหารขยะทั้งหลายออกจากบ้าน ออกจากสายตา และออกจากความคิดให้หมดเกลี้ยง อย่าไปคิดถึงมันเลยด้วยซ้ำ แต่ถ้ามันยากเกินจะทำและเกิดเผลอคิดถึงมันขึ้นมาสักครั้งล่ะก็ ก็ให้ไปที่ร้านและซื้อมาปลอบประโลมความอยากของตัวเองแค่ชุดเดียวก็พอ!


3. ลองหาของทดแทนที่ดีต่อสุขภาพ
นั่นก็หมายถึงทดแทน ความอยากทานของหวาน ด้วยการทานผลไม้อย่าง อินทผลัม องุ่น หรือผลมะเดื่อแทน หรือถ้าอยากจะทานอะไรที่เป็นครีมข้นๆ ก็ลองเลือกโยเกิร์ตแบบไขมันต่ำ ถ้าคุณนึกอยากทานอะไรเค็มๆ ก็หาแตงกวาดองมาทานแทน


4. ตั้งข้อแม้กับตัวเอง
ให้ลองทำใจเย็นๆ และอดทนกับความรู้สึกอยากทานอะไรสักอย่างให้ได้ประมาณหนึ่งชั่วโมง ถ้าความปรารถนานั้นยังแรงกล้ายากที่จะดับได้ ก็ให้ทานสิ่งที่อยากทานเข้าไปได้เล็กน้อย Dr. Oz บอกว่าปกติแล้วความอยากอาหารจะอยู่ได้แค่ประมาณ 20-30 นาที เพราะฉะนั้นถ้าเวลาผ่านไปแล้วหนึ่งชั่วโมง ก็แสดงว่าคุณก็น่าจะทนมันได้แล้ว


5. หาอะไรล้างปาก

ด้วยการแปรงฟันหรือเคี้ยวหมากฝรั่ง เพราะว่าหลังจากทำสองสิ่งนี้แล้ว อาหารชนิดไหนก็ไร้รสชาติทั้งนั้นถ้าคุณยังมีรสมินท์หลงเหลืออยู่ในปาก


6. โทร.หาเพื่อน
บางครั้งความอยากอาหารของคุณจะเกิด จากความเครียดหรืออารมณ์ประเภทอื่นๆ ลองคุยกับเพื่อนสนิทสักคนที่คุณรู้สึกสบายใจที่จะคุยด้วย แทนที่จะหันไปแก้ปัญหาด้วยการตักไอศกรีมใส่ปาก

นอกจาก 6 ข้อที่กล่าวมาแล้ว Dr. Daniel G. Amen แพทย์และนักเขียนหนังสืออีกคนหนึ่งก็ให้ความเห็นว่าควรจะรักษาระดับน้ำตาลในเลือดของคุณด้วยการรับประทานอาหารเช้า และอยู่ห่างจากคาร์โบไฮเดรต เช่น ขนมปังขาว ข้าวขาว และพาสต้าต่างๆ เช่นเดียวกับการหลีกให้ไกลจากวัตถุให้ความหวานแทนน้ำตาล ที่จะยิ่งทำให้ความอยากอาหารรุนแรงขึ้นไปอีก

ขอขอบคุณบทความดีๆเกี่ยวกับ การลดความอ้วนและลดน้ำหนัก จาก VOICEtv

ไม่มีความคิดเห็น:

Speak Your Mind

Powered By Blogger · Designed By Seo Blogger Templates